ถามกลับคำแรก “ก็ถ้ายาก แล้วทำไมพวกเรายังอยากเป็นแอร์EKละ?”
เฮ้ย Crewabsเปล่ากวนทีนนะน้องๆ ก็เพราะคำตอบมันคือสิ่งที่พวกเราตอบนี่แหละ
.
ก่อนอื่นเรามาตีแผ่เรื่องความwantของประชากรโลกที่อยากจะเป็นลูกเรืออีเคกันก่อน
ปีนึงมีผู้ส่งใบสมัครเป็น “แสน”
ได้เรียกมาสัมภาษณ์เป็น “เกือบหมื่น”
และได้รับเลือกเป็นลูกเรือเพียง “ไม่ถึงครึ่งของที่เรียกมาสัมภาษณ์”
.
ฟังดูน่าหมดหวังชะมัด นั่นแสดงว่าไอ้พวกที่ถูกเลือกนี่มันลูกนางฟ้าเทวดามาเกิดซินะ ต้องระดับเทพถึงจะได้งานนี้
.
อยากจะบอกว่าไม่จริง! มันอยู่ที่การเตรียมตัวล้วนๆ ซึ่งเวลาที่ใช้ในการเตรียมตัวขึ้นอยู่กับ2ประเด็น
1.สกิล ณ ปัจจุบัน
2.ซึ่งมันจะผันตามตัวแปรที่เรียกว่า “ความฮึด”
ยิ่งฮึดยิ่งสู้ ยิ่งพัฒนาสกิลได้ไว เพราะเมื่อมีpassion คนเรามันอยากทำ อยากเรียนรู้ อยากสมัคร ล้มไม่เลิกกูเอาใหม่ กูจะเอาให้ได้ กูสู้โว้ย
.
แต่ที่มันยากเหลือเกิน ก็เพราะว่าคนจำนวนน้อยมากที่ยังสู้ ส่วนมากจะถอดใจไปเสียก่อน
.
ไม่รู้ว่าน้องๆยังจำรอบมกราปี2015 ที่EKมาเปิดopen dayได้หรือไม่ คนไปรอตั้งแต่6.00และรับใบสมัครคนสุดท้ายเมื่อเกือบเที่ยงคืน เรียกว่ากรรมการแทบตายคนสมัครก็แทบเป็นลม หลังจากนั้นEKนางinvitation onlyยาวเลยจร้าาาา คงเข้าใจบทเรียนอันมีค่าว่า ถ้าคิดจะเปิดopen day ต้องมีกรรมการสัก1กองทัพบกมารับใบสมัครชาวไทยที่มาจากทั่วสารทิศ
.
(เพื่อมาใหม่ไม่รู้ศัพท์)
open day : เดินเข้าไปหย่อนใบสมัครได้เลยวันนั้น
invitation only: ต้องสมัครทางออนไลน์ก่อน และได้รับอีเมลอัญเชิญให้ท่านไป อยู่ดีๆจะเดินไปมิด้ายยยย
.
สรุปแล้วในตอนที่1 ขอตีแผ่ในเรื่องจำนวนผู้สมัครที่ล้นนนนนมากมาย ถามว่าแล้วรอบล่าๆที่เขารับแต่Invitationหละ คนก็ไม่ได้เยอะนิ ใช่จ้ะ แต่อย่าเพิ่งวัดที่ตาเห็นสิตัวเอง จำนวนสมัครออนไลน์ไปอีกเท่าไรนับไม่ถ้วน แถมบางคนก็สมัครที10เมล(ทำอยู่ชิมิ55) จะไม่แข่งขันกันสุดยอดได้ยังไง
.
ดังนั้น ง่ายๆเลยนะ “ผ่านด่านใบสมัครไปให้ได้ ก็เหนื่อยแล้ว”
.
แต่แล้วมันผ่านได้ไหมละ?
.
“ได้สิ^^”
(ยังไม่จบ ติดตามต่อตอนที่2 อย่าลืมกดSee first ที่ปุ่มLike จะได้ไม่พลาดข้อความดีๆนะคะ)
